วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

วัดอรุณราชวราราม(วัดแจ้ง) กรุงเทพ










วัดอรุณราชวราราม


วัดอรุณราชวราราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี ถนนอรุณอัมรินทร์ เป็นวัดที่มีมาตั้งแต่ ครั้งกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดแจ้ง ต่อมาเมื่อพระเจ้ากรุงธนบุรีย้ายพระราชธานีจากกรุงศรีอยุธยามาตั้งอยู่ ณ กรุงธนบุรี ได้โปรดฯ ให้กำหนดเอาวัดแจ้งเป็นวัดในเขตพระราชฐาน ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตที่ ได้อัญเชิญมาจากเวียงจันทน์ วัดนี้ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 2 ซึ่งถือว่าเป็นวัด ประจำรัชกาลที่ 2 เมื่อบูรณะเสร็จ แล้วได้พระราชทานนามว่า วัดอรุณราชธาราม หรือวัดแจ้ง มีจุดเด่นที่ น่าสนใจ คือ พระปรางค์องค์ใหญ่ ซึ่งมีความสูง 82 เมตร กว้าง 234 เมตร เริ่มก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 เสร็จสมบูรณ์ในสมัยรัชกาลที่ 4 และได้เปลี่ยนชื่อเป็น "วัดอรุณราชวราราม" จัดเป็นพระอารามหลวงชั้น วรมหาวิหาร เรียกชื่อเต็มว่า "วัดอรุณราชวรมหาวิหาร"

วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร พระปรางค์วัดอรุณฯ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของกรุงเทพฯ ที่รู้จักกันทั่วโลก จากแผนที่เมืองธนบุรีซึ่งชาวฝรั่งเศสทำไว้ในรัชสมันสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บ่งบอกว่า วัดแห่งนี้มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเดิมเรียกว่า "วัดมะกอก" เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างพระราชวังได้ทรงถือเอาวัดแห่งนี้ เป็นวัดภายในพระราชวัง ยกเลิกไม่ให้พระสงฆ์จำพรรษา และโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์แล้วพระราชทานนามว่า "วัดแจ้ง" ต่อมารัชกาลที่ 2 ทรงปฏิสังขรณ์และพระราชทานนามว่า "วัดอรุณราชวราราม" ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น "อรุณราชธาราม"


พระปรางค์ ก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบจาน ชามเบญจรงค์และเปลือกหอย ทำเป็นลายดอกไม้ ใบไม้และลายอื่นๆ ยอดพระปรางค์เป็นนภศูลและมงกุฎปิดทอง
พระระเบียงคต (พระวิหารคต) สร้างแทนกำแพงแก้วหลังคามุงกระเบื้องเคลือบมีประตู ภ ทิศ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย 120 องค์ สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงยกย่องว่า "ทรวดทรงงามกว่าระเบียงที่ไหนหมด เป็นศรีแห่งฝีมือในรัชกาลที่ 2 ควรชมอย่างยิ่ง"

ประตูซุ้มยอดมงกุฎ เป็นประตูจัตุรมุข หลังคา 3 ชั้นเฉลียงรอบ มียอดเป็นมงกุฎ ประดับกระเบื้องถ้วยสลับสี

มณฑปพระพุทธบาทจำลอง อยู่ระหว่างพระอุโบสถและพระวิหาร ภายในมีพระพุทธบาทจำลองเป็นหินสลักจากกวางตุ้ง

ศาลาท่าน้ำรูปเก๋งจีน อยู่ที่เขื่อนหน้าวัดมี 6 หลัง

ภูเขาจำลอง รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในพระบรมมหาราชวัง ต่อมารัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้นำมาไว้ที่วัดนี้

รูปปั้นยักษ์ยืน หน้าประตูยอดซุ้มพรมงกุฎมี 2 ตน ปั้นด้วยปูน ยักษ์ขาว คือ สหัสเดชะ ยักษ์เขียว คือ ทศกัณฑ์

วัดแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองคู่กับกรุงรัตนโกสินทร์มาตลอด สถาปัตยกรรมของปูชนียวัตถุสถานล้วนทำอย่างประณีตงดงามสมกับเป็นหนึ่งในวัด เอกของประเทศไทยและตามพระราชประเพณีพระมหากษัตริย์จะเสด็จเป็นองค์ประธานใน งานพระราชพิธีที่สำคัญของทางวัดตลอดจนพระราชทานผ้าพระกฐินทางชลมารค

พระอุโบสถ ถือเป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นในสมัยรัชกาลที่ 2 เป็นศิลปะกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หลังคาลด 2 ชั้น มุงกระเบื้องเคลือบ หน้าบันทั้งหน้าและหลังเป็นไม้แกะจิตรกรรมฝาผนังเป็นฝีมือช่างในรัชกาลที่ 3 และรัชกาลที่ 5 พระประธานมีนามว่า "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" เป็นพระปางมารวิชัยหล่อขึ้นใสมัยรัชกาลที่ 2 ที่ผ้าทิพย์ตรงใบพัดยศบรรจุพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 2

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น